เก็บตกหลังเกม! ลิเวอร์พูล บุกคว่ำ เชลซี 10 ตัว คาบ้าน 2-0 เฮสองเกมติด

เก็บตกหลังเกม! ลิเวอร์พูล บุกคว่ำ เชลซี 10 ตัว คาบ้าน 2-0 เฮสองเกมติด

“แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าเก็บชัยต่อเนื่อง ล่าสุดบุกเอาชนะ เชลซี ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก ไปได้ 2-0 เก็บชัยเป็นนัดที่สองติดต่อกัน และนี่คือประเด็นน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้

ลิเวอร์พูล

1. ธิอาโก้ ยกระดับแดนกลาง ลิเวอร์พูล

Thiago Alcantara

ธิอาโก้ อัลคันทารา ประเดิมมีชื่อบนม้านั่งสำรองในทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทันทีแม้จะเพิ่งย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกส่งลงสนามเมื่อจบพักครึ่งแทนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่มีอาการบาดเจ็บ

แม้จำนวนตัวผู้เล่นของ หงส์แดง ที่มากกว่าอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขับจุดเด่นของ ติอาโก้ ในแดนกลางให้เห็นได้เด่นชัดยิ่งขึ้นแต่ไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่าคลาสของมิดฟิลด์ทีมชาติ สเปน ได้สร้างความแตกต่างให้กับทีมทันตา บอลจากเท้าของ ติอาโก้ ในแนวลึกทำให้ผู้เล่นในแดนบนสบโอกาสวิ่งหาพื้นที่เข้าทำได้อย่างต่อเนื่อง

โดยสถิติเมื่อจบเกม ธิอาโก้ ยังกลายเป็นนักเตะที่ผ่านบอลสำเร็จได้เหนือกว่าแข้ง เดอะบลูส์ คนใดๆ รวมทั้งยังเป็นแข้งที่ผ่านบอลสำเร็จสูงสุดตลอดกาลจากการลงเล่นเพียง 45 นาที นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในซีซัน 2003/04 เป็นต้นมา

2. หรือตำแหน่งของ เฮนเดอร์สัน จะสั่นคลอน

Jordan Henderson

ต่อเนื่องจากประเด็นข้างต้น การเปลี่ยนตัวตำแหน่งต่อตำแหน่งระหว่าง เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ ในบทบาทเดียวกันจึงทำให้เราอดคาดการณ์ไม่ได้ว่าบทบาทของกัปตัน เฮนโด้ จะถูกลดลงไปหลังจากนี้เมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีศักยภาพมากกว่า

ชั้นเชิงและวิสัยทัศน์ของ ติอาโก้ เข้าคู่ได้เป็นอย่างดีเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่แพ็คเกมรับลึกอย่างที่ เร้ดแมชีน ดวลกับ สิงห์บลู 10 คนในครึ่งเวลาหลัง นั่นทำให้พื้นที่แดนกลางมีช่องว่างมากพอให้กองกลาง กระทิงดุ จัดการงัดจุดเด่นของตนเองออกมาเล่นงานเกมรับของฝ่ายตรงข้าม

แต่หากพิจารณาลึกลงไป การมีอยู่ของ เฮนเดอร์สัน กับจุดเด่นในการไล่บดบี้คู่แข่งและการเล่นเกมรับอาจเหมาะสมมากกว่าเมื่อทีมต้องดวลกับคู่ต่อสู้ที่พร้อมจะเปิดเกมรุกแลก

3. ฟาบินโญ-ฟาน ไดค์ เข้าคู่

Virgil Van Dijk, Fabio Henrique Tavares

แม้ก่อนหน้านี้จะมีคำถามถึงทางเลือกและชั้นเชิงของนักเตะในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางหลังจากที่ เดยัน ลอฟเรน ย้ายออกจากทีมจนทำให้ ลิเวอร์พูล เหลือแค่เพียง โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป เป็นทางเลือกในการจับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่เกมนี้ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่จำเป็นต้องซื้อแข้งใหม่ในตำแหน่งดังกล่าวเสริมทัพแต่อย่างใดเมื่อมีแข้งสารพัดประโยชน์อย่าง ฟาบินโญ พร้อมที่จะรับบทบาทคู่หู VvD

ดาวเตะทีมชาติ บราซิล รับบทบาทสต็อปเปอร์เข้าชนแนวรุกเป็นหน่วยแรกโดยมี ฟาน ไดค์ ประคองสถิติหลังเกมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาทำได้ดีกับบทบาทดังกล่าวด้วยตัวเลขเป็นแข้ง หงส์แดง ที่เอาชนะในการเข้าปะทะได้มากกที่สุด 4 ครั้งจากความพยายามทั้งหมด 7 ครั้ง รวมทั้งยังสามารถตัดบอลได้มากที่สุดในสนามที่จำนวน 4 ครั้ง

เชลซี

4. เกมรุกริมเส้นที่ขาดหายไป

Mason Mount

วันนี้เป็นอีกหนึ่งนัดสำหรับเกมรุกริมเส้นที่เคยเป็นทีเด็ดของ สิงโตน้ำเงินคราม มาตลอดในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา กลับเงียบสนิทตลอด 90 นาที นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แม้ในครึ่งแรกตัวผู้เล่นจะยังเท่าเทียมกัน แต่พวกเขาแทบจะหาโอกาสเข้าทำและจบสกอร์ไม่ได้เลย ซึ่ง 2 นัดที่ผ่านมา แฟรงค์ แลมพาร์ด เลือกใช้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เมสัน เมานท์ และ ติโม แวร์เนอร์ เป็น 3 ประสานในเกมรุกและผลัดกันไปเล่นเป็นตัวริมริมเส้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่สามารถตอบโจทย์เหมือนสมัยที่ยังเป็น พูลิซิช และ วิลเลียน ยืนประจำการได้

5. ก็องเต้ คือ “กองกลางตัวรับ”

FBL-ENG-PR-CHELSEA-LIVERPOOL

ตั้งแต่ที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีม นายใหญ่ตำนานสโมสรรายนี้ยังคงยืนยันว่าจะใช้งาน เอ็นโกโล ก็องเต้ ในฐานะ Box to Box มิดฟิลด์ ซึ่งนั่นหมายความว่า ก็องเต้ จะต้องมีส่วนร่วมกับการเล่นเกมรุก และจนถึงตอนนี้เขาก็พิสูจน์ให้เห็นไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า ความขยันและพละกำลังการวิ่งไล่ไม่มีหมดของเขานั้น มันไม่สามารถตอบโจทย์ในการสร้างสรรค์เกมบุกให้กับทีมได้ บ่อยครั้งที่วันนี้เขามีโอกาสที่ดีในการทำเกมในแดนหน้า แต่ก็ติด ๆ ขัด ๆ ทำพลาดไปเสียหมด ในขณะที่เกมรับเจ้าตัวกลับโดดเด่นในการไล่กวดสร้างความปั่นป่วนให้แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยตลอด 90 นาทีในเกมวันนี้

6. เคปา แจกโชคอย่างต่อเนื่อง

FBL-ENG-PR-CHELSEA-LIVERPOOL

เป็นอีกหนึ่งเกมที่จุดอ่อนของนายทวารเลือดกระทิงดุรายนี้ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทีม นั่นคือ “การเล่นบอลด้วยเท้า” ที่ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาเรามักจะเห็นได้ถึงความผิดพลาดบ่อย ๆ เมื่อเจ้าตัวต้องใช้ขาเล่นกับบอล ซึ่งมันขัดกับแนวทางการเล่นของทีมอย่างชัดเจน ที่ต้องการเซ็ตเกมบุกจากหน้าปากประตู แต่กลับมีผู้รักษาประตูที่ไม่สามารถเอาแน่เอานอนในการออกบอลแบบนี้ นี่ยังไม่นับฟอร์มการเซฟที่ดร็อปลงไปจนถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าสวนทางกับค่าตัว 

ดังนั้นหาก แลมพาร์ด ยังต้องคงยืนยันที่จะใช้การเซ็ตเกมจากแดนตัวเองขึ้นมา อาจจะถึงเวลาที่ต้องมองหาผู้รักษาประตูที่ถนัดเล่นบอลกับพื้นมากกว่านี้ เหมือนที่ แมนฯ ซิตี้ จัดการคว้าตัว เอแดร์ซอน มาเล่นเป็นนายทวารแบบ “สวีปเปอร์” นั่นเอง

สโมสรฟุตบอลเชลซี

ปัญหาใหญ่ของเชลซี

ความพ่ายแพ้ของ “สิงห์บลู” เชลซี ที่มีต่อแชมป์เก่าอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คารังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง 0–2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด โชคร้ายอย่างยิ่งที่ต้องเล่นแค่สิบคนตลอดครึ่งหลัง เพราะครึ่งแรกทั้งสองทีมยังดูสูสีคู่คี่กันมากๆ

แน่นอนว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามของอันเดรียส คริสเตนเซน ในช่วงท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่คริสเตนเซนไปทำฟาวล์เหนี่ยวซาดิโอ มาเน ขณะกำลังจะพาบอลหลุดเข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ

ทีแรกผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ แจกแค่ใบเหลืองให้กับคริสเตนเซน แต่หลังจากที่เช็กวีเออาร์ทางจอมอนิเตอร์ข้างสนามแล้ว เทียร์นีย์ก็เปลี่ยนใจเป็นแจกใบแดงไล่คริสเตนออกจากสนาม เนื่องจากมองว่าคริสเตนเซนเป็นตัวสุดท้าย ทำให้เชลซีต้องเล่นแค่ 10 คนในช่วงท้ายครึ่งแรก

พอมีตัวผู้เล่นมากกว่า “หงส์แดง” ก็เดินหน้าบุกเป็นการใหญ่ ก่อนมาพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่โรแบร์โต ฟีร์มิโน พาบอลไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดเข้ากลางให้ซาดิโอ มาเน โฉบเข้ามาโหม่งตุงตาข่าย ในนาทีที่ 50

เท่านั้นไม่พอ ความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยของเกปา อาร์ริซาบาลากา นายทวารชาวสแปนิชของเชลซี ก็ทำให้ “สิงห์บลู” ต้องสังเวยประตูที่ 2 ให้กับแชมป์เก่า ในอีก 4 นาทีให้หลัง

เมื่อเกปาออกมาเตะเปิดบอลไม่ดีไปติด มาเนที่วิ่งเข้ามากดดัน ทำให้มาเนฉกบอลไปได้ก่อนจะยิงตุงตาข่ายโล่งๆ นับเป็นประตูที่ 2 ของหัวหอกชาวเซเนกัลในเกมนี้

ดูแล้วอนาคตของเกปาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ คงจะดับวูบลงแน่นอนแล้ว ทั้งที่เจ้าตัวย้ายมาเฝ้าเสาให้กับเชลซีด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู

ด้วยเหตุนี้ ทำให้แฟรงค์ แลมพาร์ด นายใหญ่เชลซี ต้องเร่งดำเนินการหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาร่วมทีม และตอนนี้มีข่าวแว่วๆว่าพวกเขากำลังจะได้ตัวเอดูอาร์ด เมนดี นายทวารชาวเซเนกัลจากแรนส์ สโมสรในลีกเอิง ฝรั่งเศส มาเสริมแกร่ง

แม้จะทุ่มเงินเสริมทัพไปกว่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 8,000 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์นี้ แลกกับได้แข้งดังอย่างฮาคิม ซิเย็ค กองกลางจากอาแจกซ์, ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกทีมชาติเยอรมนีจากไลป์ซิก, เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายจากเลสเตอร์ ซิตี้ และไค ฮาเวิร์ตซ์ กองกลางตัวรุกจากเลเวอร์คูเซน มาร่วมทัพ

แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าเชลซีจะสามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาครองได้

จากที่เล่นมา 2 เกมแรกในลีกซีซันนี้ สตาร์ดังของเชลซีอย่างติโม แวร์เนอร์ กับไค ฮาเวิร์ตซ์ ยังร่ายฟอร์มเก่งไม่ออกเลย

นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่แฟรงค์ แลมพาร์ด นายใหญ่เชลซี ต้องเร่งหาทางแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด หากต้องการลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซันนี้กับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่หากแลมพาร์ดไม่สามารถดึงศักยภาพจนถึงขีดสุดของบรรดานักเตะซุปเปอร์สตาร์ของทีมออกมาได้

บางที “แลมพ์” อาจจะกลายเป็นกุนซือตกงานก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้!!!

เอาด้วย!แมนซิตี้แจมล่าโตนาลี่เสริมกลาง

ซานโดร โตนาลี่ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ เบรสชา เนื้อหอมเหลือเกิน เพราะล่าสุดมีข่าว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เข้าร่วมวงล่าตัวเช่นกัน แม้อาจจะต้องแย่งชิงกับ บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมเปิดศึกกับหลายสโมสรในการไล่ล่าตัว ซานโดร โตนาลี่ กองกลางดาวรุ่งคนเก่งของ เบรสชา สโมสรลูกหนังในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ ตามรายงานจาก ตุ๊ตโต้สปอร์ต สื่อกีฬาชั้นนำแดนมะกะโรนี เมื่อวันพุธที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา

เชื่อกันว่า บาร์เซโลน่า ได้มอง โตนาลี่ เป็นตัวตายตัวแทนในระยะยาวของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และอาจจะมีการเดินหน้าไล่ล่าตัวอย่างจริงจังหลังจบฤดูกาลนี้ ทว่าล่าสุด ตุ๊ตโต้สปอร์ต ระบุว่า “เรือใบสีฟ้า” เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีความสนใจในตัว ดาวเตะทีมชาติอิตาลีวัย 19 ปี และพร้อมที่จะเปิดศึกแย่งชิงตัว บาร์ซ่า ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2020/21

อย่างไรก็ตาม นอกจาก บาร์เซโลน่า กับ แมนฯ ซิตี้ แล้ว โตนาลี่ ยังมีข่าวกำลังเป็นที่หมายปองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เช่นกัน

สำหรับฤดูกาลนี้ โตนาลี่ ลงเล่นเกมลีกให้ เบรสชา ไปแล้ว 23 นัด ทำได้ 1 ประตู กับ 5 แอสซิสต์

สื่อดังเผยหากเล่นไม่จบทำทีมพรีเมียร์ฯสูญเงิน 3 หมื่นล้าน!

ดิ แอธเลติก สื่อชื่อก้อง ระบุ เหล่าผู้บริหารของทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้รับการแจ้งว่าถ้าสุดท้ายแล้วเชื้อไวรัสนี้มันทำให้ซีซั่น 2019-20 แข่งกันไม่จบ พวกเขาก็จะอดรายได้ค่าลิขสิทธิ์เป็นเงินถึง 762 ล้านปอนด์ ซึ่งนั่นก็ทำให้หลายทีมอยากให้มันเตะกันแบบไร้คนดู เพราะพวกเขาไม่อยากชวดเงินก้อนนี้
บรรดาผู้บริหารของสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับการแจ้งว่าพวกเขาจะชวดรายได้ด้านการถ่ายทอดสดเป็นเงินถึง 762 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,480 ล้านบาท) ถ้าหากฤดูกาล 2019-20 ไม่สามารถแข่งกันจนจบได้ ตามการเปิดเผยของ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดัง

การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังคงรุนแรงอย่งาต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ และมันก็ส่งผลกับวงการฟุตบอลจนถึงขั้นทำให้แต่ละลีกต้องพักการแข่งขันเป็นการชั่วคราว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้บริหารของ พรีเมียร์ลีก กับตัวแทนจาก 20 ทีมในลีกได้ประชุมร่วมกัน ก่อนที่จะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มการพักแข่งไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ จากเดิมที่ถึงแค่ช่วงต้นเดือนเมษายน

ทั้งนี้ ดิ แอธเลติก เผยว่าในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น มันมีการแจ้งด้วยว่าถ้าเกิดสุดท้ายซีซั่นนี้เตะกันไม่จบจริงๆ มันก็จะทำให้รายได้ด้านลิขสิทธิ์หายไปถึง 762 ล้านปอนด์ โดยมาจากการละเมิดสัญญาด้านลิขสิทธิ์การถ่ายทอดทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติ ยกตัวอย่างเช่น สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของอังกฤษที่จะเสียเงินไปบานเบอะจากการที่ไม่ได้ถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันตามที่วางแผนเอาไว้

เรื่องดังกล่าวทำให้บางสโมสรอยากให้ฤดูกาลนี้มันแข่งจบให้ได้มากๆ ต่อให้จะเป็นการเล่นแบบที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามก็ตาม เพราะเงินจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดถือเป็นเงินก้อนที่สำคัญมากๆ ของพวกเขาในการเอาไปใช้ทำอย่างอื่น อาทิเช่น ค่าเหนื่อยของนักเตะที่สูงลิบ เป็นต้น และพวกเขาก็กลัวว่าถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้มันก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถอยู่รอดได้

ทั้งนี้ นอกจากจะต้องการให้เตะกันจนครบแล้วนั้น ทีมเหล่านั้นก็อยากให้นักเตะรับการตรวจเป็นประจำด้วย ส่วนสนามซ้อมก็จะมีการใช้มาตรการรักษาสุขอนามัยอย่างเต็มที่จนอาจจะถึงขั้นมีการปิดสนามซอม โดยพวกเขากลัวด้วยว่าในเร็วๆ นี้อาจจะต้องมีการปลดสตาฟฟ์ของทีมเพื่อลดค่าใช้จ่าย เหมือนที่ โอลิมปิก ลียง ทีมในฝรั่งเศสเพิ่งทำไป

อย่างไรก็ตาม มันก็มีทีมอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่าการเล่นแบบปิดสนามมันไม่สามารถเป็นจริงได้ และบรรดานักเตะก็อาจจะปฏิเสธที่จะเล่นถ้าหากกังวลถึงสุขภาพของตัวเอง หรือในกรณีที่คนใกล้ๆ ตัวพวกเขาสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ

เรื่องดังกล่าวทำให้บางสโมสรอยากให้ฤดูกาลนี้มันแข่งจบให้ได้มากๆ ต่อให้จะเป็นการเล่นแบบที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามก็ตาม เพราะเงินจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดถือเป็นเงินก้อนที่สำคัญมากๆ ของพวกเขาในการเอาไปใช้ทำอย่างอื่น อาทิเช่น ค่าเหนื่อยของนักเตะที่สูงลิบ เป็นต้น และพวกเขาก็กลัวว่าถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้มันก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถอยู่รอดได้

ทั้งนี้ นอกจากจะต้องการให้เตะกันจนครบแล้วนั้น ทีมเหล่านั้นก็อยากให้นักเตะรับการตรวจเป็นประจำด้วย ส่วนสนามซ้อมก็จะมีการใช้มาตรการรักษาสุขอนามัยอย่างเต็มที่จนอาจจะถึงขั้นมีการปิดสนามซอม โดยพวกเขากลัวด้วยว่าในเร็วๆ นี้อาจจะต้องมีการปลดสตาฟฟ์ของทีมเพื่อลดค่าใช้จ่าย เหมือนที่ โอลิมปิก ลียง ทีมในฝรั่งเศสเพิ่งทำไป

อย่างไรก็ตาม มันก็มีทีมอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่าการเล่นแบบปิดสนามมันไม่สามารถเป็นจริงได้ และบรรดานักเตะก็อาจจะปฏิเสธที่จะเล่นถ้าหากกังวลถึงสุขภาพของตัวเอง หรือในกรณีที่คนใกล้ๆ ตัวพวกเขาสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ

สื่อดังแฉรายละเอียดชุดเหย้าใหม่แมนยู

ฟุตตี้ เฮดไลน์ส เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชุดเหย้าตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยนอกเหนือไปจากการใช้สีแดงเป็นหลักมันก็จะมีการใส่เส้นสีดำกับสีเหลืองเข้าไปด้วย แถมยังเอารูปลูกฟุตบอลที่บอกว่าจะวางขายในร้านค้าของ “ปีศาจแดง” มาใช้อ้างอิงอีก
ฟุตตี้ เฮดไลน์ส เว็บไซต์แนวข่าวสารเรื่องผลิตภัณฑ์ฟุตบอลชื่อดัง เปิดเผยรายละเอียดที่อ้างว่าจะใช้ในการทำชุดเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับการทำศึกในฤดูกาล 2020-21 โดยที่นอกจากจะใช้สีแดงเป็นหลักแล้วนั้น มันจะยังมีการใส่เส้นเล็กๆ สีดำกับสีเหลืองเข้าไปด้วย

ทั้งนี้ ฟุตตี้ เฮดไลน์ส เอารูปที่อ้างว่าจะเป็นลูกฟุตบอลที่จะวางขายในช็อปของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นหน้า มาใช้เป็นหนึ่งในแหล่งอ้างอิง เพราะปกติแล้ว อาดิดาส จะใช้ดีไซน์บนชุดแข่งกับลูกฟุตบอลของแต่ละทีมที่คล้ายกัน โดยบนชุดเหย้าตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น โลโก้ของ อิดาส จะเป็นสีขาว ไม่ใช่สีดำเหมือนที่ผ่านมา เพื่อที่มันจะได้ไม่กลมกลืนไปกับเส้นสีดำบนชุดแข่ง

หากข้อมูลที่ ฟุตตี้ เฮดไลน์ส นำเสนอในครั้งนี้เป็นความจริง มันก็จะถือว่าในซีซั่นหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีชุดแข่งที่ลวดลายแหวกแนวพอตัว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการแฉว่าชุดแข่งแบบที่ 3 ของพวกเขา จะถูกออกแบบมาให้เป็นลายพรางเหมือนที่ทำกันบนเรือรบในสมัยสงครามโลกเลย

เลสเตอร์ทรุด!เปเรยร่าเข่าพังพักยาวทั้งซีซั่น

“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ เจอข่าวร้ายครั้งใหญ่ เมื่อแบ็กขวาตัวหลักอย่าง ริคาร์โด้ เปเรยร่า มีอันต้องปิดเทอมยาวทั้งซีซั่น หลังเข่าพังจากเกมเมื่อวันจันทร์
ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็กขวาตัวเก่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หมดสิทธิ์ช่วยต้นสังกัดตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าจนถึงขั้นเอ็นฉีกขาด

ดาวเตะเลือดฝอยทองวัย 26 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเกมลีกนัดล่าสุดที่ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ไล่ถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-0 เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา และล่าสุดกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คอนเฟิร์มว่า เปเรยร่า มีอันต้องปิดเทอมยาวทั้งซีซั่นนี้

“ริคาร์โด้ เปเรยร่า จะต้องพักยาวทั้งซีซั่น เอ็นหัวเข่าของเขาฉีกขาด แต่เขายังไม่ได้เข้ารับการผ่าตัด แค่ตอนนี้อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นข่าวร้ายสำหรับเรา แต่มันก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้เล่นคนอื่นที่จะก้าวขึ้นมาแทน” ร็อดเจอร์ส กล่าว

ทั้งนี้ ถือเป็นข่าวร้ายเกี่ยวกับนักเตะบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องสำหรับ เลสเตอร์ เพราะก่อนหน้านี้ เจมส์ แมดดิสัน กองกลางตัวรุกคนสำคัญ ก็มีปัญหาบาดเจ็บที่น่อง และต้องพักยาวจนผ่านพ้นช่วงพักเบรกเกมทีมชาติ

สำหรับฤดูกาลนี้ เปเรยร่า ลงเล่นให้ เลสเตอร์ ไปแล้วรวมทุกรายการ 33 นัด ทำได้ 4 ประ

เปลี่ยนใจ!ชิรูด์แย้มอยากต่อสัญญาเชลซี

เหมือนเปลี่ยนใจอยู่กับทีมต่อ…โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอกร่างใหญ่ เชลซี แย้มอยากได้สัญญาฉบับใหม่จากต้นสังกัด แต่ยันตอนนี้ขอโฟกัสไปที่การทำผลงานในสนามเป็นหลัก

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าเฟร้นช์แมนของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พูดเป็นนัยว่า ต้องการที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด ถึงแม้ฤดูกาลนี้ส่วนใหญ่เป็นแค่ตัวสำรองก็ตาม

ชิรูด์ กำลังจะหมดสัญญากับ “สิงห์บลูส์” หลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งก็คาดกันว่าเจ้าตัวจะย้ายออกไปแบบฟรีๆ หลังจากที่เป็นแค่ตัวเลือกอันดับสามในตำแหน่งหัวหอกต่อจาก แทมมี่ อับราฮัม และ มิชี่ บาตชูอายี่ แถมเกือบได้ย้ายทีมสมใจตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ อับราฮัม เจอปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าเล่นงาน ชิรูด์ ก็ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง 4 นัดติดรวมทุกรายการ และทำได้ 1 ประตูในเกมที่ เชลซี เปิดบ้านเชือด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว จนล่าสุดเจ้าตัวแย้มว่า อยากได้สัญญาฉบับใหม่จากต้นสังกัด

“ใช่เลย แน่นอน (เรื่องต่อสัญญา) การแข่งขันในฤดูกาลนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน เรายังมีอีกหลายเกมที่จะต้องเก็บชัยชนะ ซึ่งบางทีเราอาจจะได้แชมป์อีกสักรายการ สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น คุณไม่มีทางรู้หรอก แต่ผมคิดว่า ผมยังสามารถเล่นในระดับนี้ได้อีกสองหรือสามฤดูกาล สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องสัญญา แต่ผมจะตัดสินใจแน่นอน เมื่อเวลามันมาถึง” อดีตหัวหอก อาร์เซน่อล วัย 33 ปี เปิดใจกับ อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด สื่อเมืองผู้ดี

ทั้งนี้ ชิรูด์ ลงเล่นให้ เชลซี ไปแล้ว 75 นัด ทำได้ 20 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาจาก “ไอ้ปืนใหญ่” เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018

ฮือฮา!แฉเคนยอมซบ1ทีมร่วมลีกดีกว่าทนอยู่สเปอร์ส

แมนฯ ยูไนเต็ด ดีกว่าต้องทนเล่นกับ สเปอร์ส ในสภาพที่ต้องสร้างทีมกันขึ้นมาใหม่ แถมถ้า “ไก่เดือยทอง” อดได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า เคน ก็จะต้องการบอกลาทีมมากขึ้น
แฮร์รี่ เคน กองหน้าคนเก่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรชั้นนำของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สนใจย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่าการอยู่กับ “ไก่เดือยทอง” ต่อไป ในช่วงที่ สเปอร์ส จำเป็นต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ตามรายงานของ โกล สื่อแวดวงฟุตบอลรายหนึ่ง

เคน สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำทุกฤดูกาลนับตั้งแต่ที่ได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริงของ สเปอร์ส อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ได้รับการยกย่องอย่างมาก แต่เขาก็ยังไม่เคยได้แชมป์ร่วมกับทีมเลย จนทำให้มีข่าวลือบ่อยๆ ว่าเจ้าตัวอาจจะย้ายทีมเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จบ้าง เป็นที่เชื่อกันว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ สเปอร์ส จำเป็นต้องสร้างทีมกันขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังจากฤดูกาล 2020-21 จะเป็นซีซั่นแรกที่ มูรินโญ่ ได้คุมทีมแบบเต็มฤดูกาล แต่ เคน ก็ไม่ต้องการรอจนกว่าที่การทำทีมชุดใหม่จะเสร็จสิ้นอีกแล้ว และถ้าหากสุดท้ายแล้วซีซั่นนี้ สเปอร์ส ไม่สามารถคว้าตั๋วลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าได้ มันก็จะทำให้ เคน อยากย้ายทีมมากขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานมาก่อนแล้วว่า เคน เตรียมที่จะพิจารณาอนาคตของตัวเองในช่วงซัมเมอร์นี้ ขณะที่ สเปอร์ส ก็จะเรียกค่าตัวเป็นเงินมากกว่า 150 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,000 ล้านบาท) ถ้าหากต้องยอมขายเขาจริงๆ โดยถ้าเกิด แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาคุมทีมแล้วนั้น พวกเขาก็น่าจะมีโอาสได้ เคน มาร่วมทีมมากขึ้นไปอีก หลังจากทั้งคู่สนิทกันสุดๆ ตอนร่วมงานกันที่ สเปอร์ส

ไม่ใช่แมนยู!เมอร์ฟี่แนะ2บิ๊กทีมซิวกรีลิชร่วมทัพ

แดนนี่ เมอร์ฟี่ ระบุ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ควรจะดึง แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ แอสตัน วิลล่า มาร่วมทีม ชี้ ดาวเตะวัย 24 ปี จะเข้ากับปรัชญาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้แน่นอน ส่วน โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็ต้องการตัวเลือกในตำแหน่งกองกลางมากกว่านี้ หลังจากที่ ดาบิด ซิลบา เตรียมลาทีมหลังจบซีซั่น 2019-20
แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตมิดฟิลด์คนดังของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แนะนำ “หงส์แดง” กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าควรจะคว้าตัว แจ็ค กรีลิช กองกลางคนเก่งของ แอสตัน วิลล่า ไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้

กรีลิช ทำผลงานได้น่าประทับใจกับ วิลล่า ในฤดูกาลนี้ จนทำให้เขาตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหนักตลอดช่วงที่ผ่านมา และเชื่อกันว่าถ้าเกิด วิลล่า ต้องตกชั้นแล้วนั้น แข้งวัย 24 ปีก็คงจะย้ายทีมเพื่อที่จะได้เล่นในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ต่อไป

เมอร์ฟี่ เผยว่า “ถ้าคุณลองดูทีมชั้นยอดอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล แล้วล่ะก็ คุณก็จะเห็นเลยว่าพวกเขาชอบนักเตะที่สามารถเล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง และ กรีลิช ก็มีคุณสมบัติแบบนั้น เขามีทั้งพละกำลังทางร่างกายที่ดี และทักษะด้านเทคนิคชั้นยอดที่ทำให้เขาสามารถเล่นได้ในหลายๆ ตำแหน่ง”

“ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดคุณเป็น (ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เจอร์เก้น) คล็อปป์ แล้วนั้น การมีนักเตะแบบนั้นให้ใช้งานมันก็ถือเป็นเรื่องดีมากๆ จนเหมือนเป็นพรจากพระผู้เป็นเจ้า เขาเข้ากับปรัชญาของ คล็อปป์ และถึงแม้ (ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ โจเซป) กวาร์ดิโอล่า จะมี ฟิล โฟเด้น ให้ใช้งาน แต่เขาก็คงจะยังให้ความสนใจนักเตะฝีเท้าดีคนอื่นๆ อยู่ดี เพราะ ดาบิด ซิลบา จะบอกลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว”

ขอด้วย!มูรินโญ่เอาฮาอยากรู้จะได้แชมป์ลีกแทนหรือไม่

โชเซ่ มูรินโญ่ พูดแบบเอาฮาว่าอยากรู้ว่าตนจะได้แชมป์ลีกร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2017-18 แทนที่ แมนฯ ซิตี้ รึเปล่า พร้อมบอกว่ายังไม่สนเรื่องที่ทีมในอันดับ 5 ของซีซั่นนี้จะได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พูดแบบติดตลกว่าตนอยากรู้ว่าถ้าเกิด พรีเมียร์ลีก ลงโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วนั้น มันจะถือว่าตนได้แชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 2017-18 ร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทนรึเปล่า

หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ โดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ตัดสินว่ามีความผิดฐานโกหกเรื่องรายรับ จนทำให้โดนแบนจากการลงเล่นรายการระดับทวีปยุโรปเป็นเวลา 2 ฤดูกาลแล้วนั้น มันก็มีกระแสข่าวตามมาทันทีว่า พรีเมียร์ลีก เตรียมที่จะลงดาบ “เรือใบสีฟ้า” เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในข่าวเกี่ยวกับเรื่องนั้นคือรายงานที่บอกว่า แมนฯ ซิตี้ อาจจะโดนริบแชมป์ลีกในฤดูกาล 2013-14 เพราะคดีความของพวกเขากับกฎควบคุมการเงินมันเริ่มขึ้นในช่วงนั้น

มูรินโญ่ เผยว่า “ผมไม่เคยเสียเวลามานั่งวิเคราะห์สิ่งที่ ยูฟ่า ต้องเป็นฝ่ายวิเคราะห์แม้แต่วินาทีเดียว ถ้าผมทำอย่างนั้นแล้วน่ะ ผมก็คงต้องขอถามว่าทีมที่เป็นอันดับ 2 ในปี 2018 จะได้แชมป์รึเปล่า ? มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลย”

ทั้งนี้ มันมีการระบุด้วยว่าทีมที่ได้อันดับ 5 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ อาจจะได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แทนที่ แมนฯ ซิตี้ ในซีซั่นหน้า ถ้าหาก แมนฯ ซิตี้ อุทธรณ์เรื่องนี้กับศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ไม่ผ่าน แต่ มูรินโญ่ บอกว่ายังไม่ได้คิดไกลถึงขั้นนั้น “เอาล่ะ อันนี้ผมจะพูดแบบไม่เล่นมุกแล้วนะ ตอนนี้ผมแค่รอดูอย่างใจเย็นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ 4 หรือที่ 5 ผมก็แค่คิดเกี่ยวกับการทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งเราเก็บแต้มได้มากเท่าไหร่เราก็จะมีอันดับดีขึ้นมากเท่านั้น พอจบฤดูกาลแล้วเราก็จะมารู้กันว่าเราจะได้เป็นอันดับที่เท่าไหร่ ถ้าทีมที่ได้อันดับ 5 ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เรากลับจบฤดูกาลด้วยการเป็นที่ 6 หรือ ที่ 7 มันก็จะไม่มีความสำคัญใดๆ ทั้งนั้น”