[OPINION] 6 แข้งจาก 6 ทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก ที่ควรรีบย้ายทีม เพื่อโอกาสในการลงสนามที่มากกว่า

  1. ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ – วิคเตอร์ วานยามา
    อายุ 28 ปี
    ตำแหน่ง กองกลาง
    ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 2 เกมในซีซั่นนี้

กองกลางตัวรับชาว เคนยา แทบจะเรียกได้ว่าไร้ตัวตนในทีม ไก่เดือยทอง ฤดูกาลนี้ เพราะมีโอกาสลงสนามเป็นเพียงตัวสำรองให้กับทีมไปแค่ 2 เกมเท่านั้นใน พรีเมียร์ลีก แถมยังแทบจะไม่มีชื่อเป็นตัวสำรองในทีมเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เจ้าตัวก็หายจากการบาดเจ็บหนักเมื่อซีซั่นก่อนมาแล้วก็ตาม

แม้ว่าจะเปลี่ยนกุนซือคนใหม่มาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของเจ้าตัวจะยังไม่ดูดีขึ้นสักเท่าไหร่ ดังนั้นทางเดียวที่เจ้าตัวจะกู้อาชีพนักฟุตบอลของตัวเองกลับมาได้ คือการต้องย้ายออกเพื่อไปหาโอกาสลงสนามทางเดียวเท่านั้น

2. อาร์เซนอล – ชโคดราน มุสตาฟี
อายุ 27 ปี
ตำแหน่ง กองหลัง
ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 3 เกมในซีซั่นนี้

ชายผู้มักจะตกเป็นเป๋าของแฟนบอลทีมตัวเองเสมอทุกครั้งที่ลงสนาม ซึ่งนั่นเป็นเพราะฟอร์มตั้งแต่ซีซั่นก่อนของเจ้าตัวที่ค่อนข้างออกทะเลแบบกู่ไม่กลับ จนกระทั่งมีข่าวลือถึงการย้ายออกจากทีมตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ในที่สุดการย้ายทีมก็ไม่เกิดขึ้น ทำให้เซ็นเตอร์แบ็คชาวเยอรมัน จำเป็นต้องอยู่กับทีมในฐานะส่วนเกินต่อไป

โดยตลอดครึ่งซีซั่นแรกนั้น เขาได้รับโอกาสลงสนามในลีกไปเพียง 3 เกมเท่านั้น แถมยังไม่มีชื่อติดทีมอยู่บ่อย ๆ ส่วนใหญ่ที่ได้รับโอกาสจะเป็นในรายการฟุตบอลถ้วยซะเป็นส่วนใหญ่ ฉนั้นคงถึงเวลาแล้วที่อดีตกองหลัง บาเลนเซีย รายนี้ ต้องทบทวนอนาคตตัวเองใหถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และรีบตัดสินใจเสียก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดตัวลงอีกครั้ง

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – มาร์กอส โรโฮ
อายุ 29 ปี
ตำแหน่ง กองหลัง
ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 3 เกมในซีซั่นนี้

กองหลังทีมชาติ อาร์เจนตินา ที่มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์โลกปี 2014 แต่กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าที่ควรภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ใช้ดาวรุ่งเป็นกำลังหลักของสโมสร นั่นจึงทำให้ในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงสนามให้กับทีม ปีศาจแดง ไปเพียง 3 เกมเท่านั้นใน พรีเมียร์ลีก

ซึ่งต้องบอกว่าฝีเท่าของเขานั้นมีดีมากกว่าการที่ต้องนั่งดูเพื่อนร่วมทีมบนแสตนด์ ดังนั้นการก้าวเท้าออกจาก โรงละครแห่งความฝัน อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในยามที่อายุอานาขยับใกล้เลข 3 เข้าไปทุก ๆ แบบนี้

4. เชลซี – โอลิวิเยร์ ชิรูด์
อายุ 33 ปี
ตำแหน่ง กองหน้า
ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 5 เกมในซีซั่นนี้

มาถึงหัวหอกดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสเมื่อปี 2018 อย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่สถานการณ์ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ณ ขณะนี้เรียกได้ว่ามึดมนสุด ๆ หลังจากได้ออกสตาร์ทในเกมแรก ๆ ของซีซั่น และต่อจากนั้นเจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสสนามอีกเลยแม้แต่ในรายการฟุตบอลถ้วยภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด

ซึ่งอย่างที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมตราไก่ เคยออกมาบอกว่าจะไม่มีการการันตีให้ผู้เล่นคนใดทั้งนั้น ในการจัดทีมชุดลุยศึก ยูโร 2020 กลางปีนี้ เพราะฉนั้นหาก ชิรูด์ ยังหวังจะติดทีมชุดนี้ไป เขาจำเป็นต้องได้ลงเล่นมากกว่านี้ และแน่นอนว่าไม่ใช่ที่ เดอะบริดจ์ อีกต่อไป เพราะครั้งนี้อาจจะเป็นรายการสุดท้ายในนามทีมชาติของเจ้าตัวแล้วก็เป็นได้

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ฟิล โฟเด้น
อายุ 19 ปี
ตำแหน่ง กองกลาง
ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 11 เกมในซีซั่นนี้

วันเดอร์คิดวัย 19 ปี ของ เรือใบสีฟ้า ที่ถูกเตรียมไว้เป็นตัวตายตัวแทนของ ดาบิด ซิลบา ในซีซั่นหน้า หลังจาก เพลย์เมกเกอร์เลือดกระทิงดุ ตัดสินใจจะอำลาทีมไปหลังฤดูกาลนี้จบลง และถึงแม้ว่าในระยะหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ของทีม จะเริ่มให้โอกาสดาวรุ่งรายนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่แน่นอนว่าเขายังไม่ได้ขึ้นเป็นตัวหลักของทีมอย่างเต็มตัว

บางทีทางเลือกที่ดีกว่านั้นคือการออกไปหาประสบการณ์ลงสนามอย่างต่อเนื่องกับทีมอื่นสักทีมด้วยสัญญายืมตัว อาจจะเป็นทางเลือกที่ฟังดูดีกว่าการได้ลงบ้างนั่งบ้างอยู่ในตอนนี้ เพื่อโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ในขณะที่ยังมีโอกาส

6. ลิเวอร์พูล – เชอร์ดาน ชากิรี
อายุ 28 ปี
ตำแหน่ง ปีก
ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 5 เกมในซีซั่นนี้

บางทีนี่อาจจะถึงเวลาที่ สตาร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ จะต้องเลือกว่าจะเป็นหัวหมาหรือหางมังกรในชิวิตการค้าแข้งที่เหลืออยู่ เพราะแน่นอนว่าหากคุณอยู่กับ ลิเวอร์พูล คุณจะมีรางวัล โทรฟี มาประดับเกียรติประวัติของคุณมากมาย แต่แน่นอนว่าคุณจะไม่ไช่ตัวเลือกแรกในการจัดตัวลงเล่นหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ดังเช่นในซีซั่นนี้ที่เจ้าตัวพึ่งจะได้มีโอกาสลงเล่นไปเพียง 5 เกมเท่านั่นในลีก แถมเป็นตัวจริงแค่ 2 นั่นอาจเพราะอาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวนอยู่เรื่อย ๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ แถมการเข้ามาของ ทาคูมิ มินามิโนะ จะยิ่งทำให้โอกาสของเขานั้น น้อยลงไปอีกอย่างแน่นอน

ดังนั้นเจ้าตัวคงต้องเลือกระหว่าง ความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ที่แทบไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่ง หรือ ความสุขจากการได้ลงไปวาดลวดลายบนผืนหญ้าให้ทุกคนได้ประจักษ์ถึงความสามารถที่แท้จริง ถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะเลือกทางไหน ?