- เวสต์บรอมวิช ทำการบ้านมาดี
นอกจากประเด็นเรื่องความเหนื่อยล้าที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ของ เวสต์บรอมวิช จะมีเวลาพักมากกว่า เพราะบรรดาแข้ง เชลซี ส่วนใหญ่ ต้องลงรับใช้ชาติถึง 3 เกมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับว่าวันนี้ แซม อัลลาร์ไดซ์ วางแผนการเล่นมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการไม่ยอมถอยลงไปตั้งรับต่ำ แต่แน้นเพลสซิ่งสูงจนทำให้ สิงห์บลู ขึ้นเกมจากหน้าประตูตัวเองแทบไม่ได้เลยแม้ว่าจะมีตัวผู้เล่นเท่ากันในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ยิ่งไปกว่านั้นต้องชมบรรดาแนวรุกของทีมเยือนที่วันนี้นัดกันคืนฟอร์มเก่ง จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมชนิดที่เรียกได้ว่ายิงตรงก็แทบจะเป็นตุงจากโอกาสที่พวกเขามีตลอดทั้งเกม
- ใบแดงเป็นเหตุ สังเกตได้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใบแดงของ ติอาโก้ ซิลวา ในนาทีที่ 29 นั้นเป็นจุดเปลียนของเกมนี้อย่างแท้จริง ซึ่งจะโทษแต่ตัว ติอาโก้ คนเดียวก็คงไม่ถูกเพราะของแบบนี้มันต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งทีม ! โดยเฉพาะ จอร์จินโญ ที่เสียบอลง่ายถึงสองครั้งจน ซิลวา ต้องยอมตัดฟาวล์รับใบเหลืองสองใบติดต่อกันต้องออกจากสนามไป
แน่นอนหลังจากตัวผู้เล่นน้อยกว่า ไม่เพียงแค่ เชลซี เสียเปรียบในเรื่องจำนวนคนเท่านั้น แต่มันยังทำให้ เวสต์บรอม มีความหวังและแรงฮึดขึ้นมาจากเดิมมาก เห็นได้จากแนวรุกของพวกเขาที่เล่นกันได้อย่างมั่นอกมั่นใจ ยิ่งเจ้าบ้านสกอร์ตามหลังยิ่งทำให้ผู้มาเยือนเล่นง่ายจากการเปิดพื้นที่ในแนวหลัง เพียงแค่ต้องแพ็คเกมรับให้ดีและรอโอกาสสวนกลับแม่น ๆ นั่นก็เพียงพอจะทำให้พวกเขาถล่มประตูได้เป็บกอบเป็นกำถึง 5 ลูกในเกมวันนี้
- มาเธอุส เปเรย์รา ตัวนี้ของจริง !
หากจะให้เลือกใครสักคนเป็น แมน ออฟ เดอะแมทช์ ในวันนี้ คงต้องขอยกให้ มาเธอุส เปเรย์รา เพลย์เมคเกอร์ชาวบราซิลวัย 24 ปี ที่เรียกได้ว่าเป็นเดอะแบกของ เวสต์บรอมวิช ในฤดูกาลนี้ ด้วยการทำไปแล้วถึง 8 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์แม้ผลงานโดยรวมของทีมจะจัดว่าย่ำแย่ก็ตาม
เช่นเดียวกับเกมวันนี้ที่เจ้าตัวเล่นได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่เริ่มเกม แม้จะมีตัวผู้เล่นเท่ากัน แต่ก็เห็นได้ชัดถึงบทบาทการเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีมเยือนที่ค่อนข้างเฉิดฉาย มีทั้งความเร็ว ความคล่องตัว เทคนิคไอเดีย ความสามารถเฉพาะตัว และการตัดสินใจที่เฉียบขาด จนมีส่วนร่วมกับแทบทุกประตูที่ทีมทำได้ในวันนี้
ต้องบอกว่าคงเป็นเรื่องน่าเสียดายหากต้นสังกัด เวสต์บรอมวิช ต้องตกชั้นไปในปีนี้แต่รับรองได้เลยว่าด้วยฟอร์มขนาดนี้ คงจะมีอีกหลาย ๆ ทีมที่พร้อมจะอ้าแขนรับเขาเข้าไปรวาดลวดลายบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแห่งนี้ต่อไปอย่างแน่นอน